Skip to main content

การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน

แนวทางการบริหารจัดการ

การประเมินความเสี่ยง และผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน

ไออาร์พีซี ทบทวนประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนตามแนวปฏิบัติของ “คู่มือระเบียบวิธีการประเมินความเสี่ยง และผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน” (Human Rights Risks and Impact Assessment Methodology) ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจของไออาร์พีซี และบริษัทย่อย ธุรกิจที่ไออาร์พีซีมีอำนาจและไม่มีอำนาจควบคุมจัดการ และคู่ค้าหลัก (Critical Suppliers) ซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งพื้นที่เขตประกอบการฯ และพื้นที่ปฏิบัติการคลังน้ำมันทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ คลังน้ำมันชุมพร คลังน้ำมันอยุธยา คลังน้ำมันพระประแดง คลังน้ำมันระยอง และคลังน้ำมันแม่กลอง รวมไปถึงการระบุความเสี่ยงจากโครงการลงทุนใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2564 ผ่านเวทีรับฟังความคิดเห็นความคิดเห็นของประชาชนที่ดำเนินการโดยบริษัทที่ปรึกษา โดยผลจากการประเมินความเสี่ยงทั้งหมดได้นำมาใช้ในการวิคราะห์ และกำหนดมาตรการลดผลกระทบ ฟื้นฟู และเยียวยา ทั้งนี้ในปี 2564 ไม่พบประเด็นความเสี่ยงในระดับสูง (Salient Issues) อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นความเสี่ยงที่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ได้แก่ อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในเขตประกอบการฯ ความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบเขตประกอบการฯ การสร้างการมีส่วนร่วมกับคู่ค้า และการบริหารจัดการของเสีย ซึ่งไออาร์พีซี ยังมีมาตรการลดความเสี่ยง ควบคุมดูแล และให้ความสำคัญในการดำเนินการติดตามมาตรดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ในกระบวนการทบทวนความเสี่ยงอย่างรอบด้านนั้น ไออาร์พีซี ได้กำหนดขอบเขตและประเด็นสำคัญ และดัชนีชี้วัดที่เกี่ยวข้องด้านสิทธิมนุษยชนกับองค์กร เพื่อใช้ในการติดตามและประเมินความสำเร็จของโครงการด้านสิทธิมนุษยชนตามขอบเขตที่ระบุไว้

รายงานผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน [รายงานผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน]

การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของพนักงาน

ไออาร์พีซี ให้ความสำคัญต่อการเคารพสิทธิมนุษยชนของพนักงาน และสร้างความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชนผ่านการฝึกอบรมในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดโอกาสที่เท่าเทียม ปราศจากการเลือกปฏิบัติ อีกทั้งยังคงมุ่งเน้นการจัดสวัสดิการที่เป็นธรรมและเอื้อประโยชน์ต่อพนักงานในทุกรูปแบบทั้งด้านสวัสดิการและการดูแลสุขภาพ รวมถึงการกำหนดแนวทางการลดการมีอคติต่อหัวหน้างาน และความไม่เป็นธรรมระหว่างหัวหน้างานและลูกน้องผ่านการประเมิน 180 องศา นอกจากนี้ ไออาร์พีซี ยังมุ่งมั่นส่งเสริมการเติบโตในหน้าที่การงานของพนักงานหญิง โดยสามารถติดตามการวัดผลจากสัดส่วนของผู้บริหารหญิงขององค์กรให้มีความต่อเนื่องทุกปีจากหัวข้อ การบริหารทรัพยากรบุคคล

การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทาน

ไออาร์พีซี สื่อสารนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมให้คู่ค้ารายหลักปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ไออาร์พีซีมีการประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้า คู่ธุรกิจในด้านการปฏิบัติตามหลักการสิทธิมนุษยชนตามคู่มือการดำเนินงานจัดหาอย่างยั่งยืน ในหมวดจรรยาบรรณด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน โดยในปี 2564 มีการกำหนดมาตรการตรวจสอบคุณสมบัติและอายุของผู้รับเหมาก่อนเข้าปฏิบัติงานภายในโรงงาน เพื่อเป็นการป้องกันการค้ามนุษย์ การจ้างแรงงานเด็กและแรงงานบังคับ การฝึกอบรม สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน การจัดสัมมนาคู่ค้าด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) รวมถึงการประเมินตนเองโดยการตอบแบบสอบถาม ก่อนการตรวจประเมิน ณ พื้นที่ประกอบการของคู่ค้า (ESG Onsite Audit)

การเป็นองค์กรต้นแบบ และการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความตระหนัก (Awareness) และสร้างเครือข่าย (Networking) ด้านสิทธิมนุษยชน

นอกเหนือจากแผนงานตามเป้าหมายการไม่มีข้อร้องเรียนกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้วนั้น ไออาร์พีซี ยังมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน โดยการใช้หลักการด้านสิทธิมนุษยชน ผนวกเข้าในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยกำหนดให้มีการสื่อความกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ คู่ธุรกิจ คู่ค้าทางธุรกิจในสายโซ่อุปทาน ผู้รับเหมา และผู้รับเหมาช่วงทุกราย ให้มีการปฏิบัติตามหลักการสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการกำหนดมาตรการตรวจสอบคุณสมบัติและอายุของผู้รับเหมาก่อนเข้าปฏิบัติงานภายในโรงงาน เพื่อเป็นการป้องกันการค้ามนุษย์ การจ้างแรงงานเด็ก และแรงงานบังคับ เป็นต้น

นอกเหนือจากการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนภายใต้กิจกรรมธุรกิจของไออาร์พีซีแล้ว ไออาร์พีซี ยังดำเนินโครงการที่เสริมสร้างเครือข่ายในการดำเนินกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆ โดยมีส่วนร่วมทั้งในระดับประเทศและสากล

รางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำ ปี 2563 (Human Rights Awards)

ไออาร์พีซี ได้รับรางวัลชนะเลิศองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี พ.ศ. 2564 จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจัดงานโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม โครงการองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ที่มีวัตถุประสงค์ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคธุรกิจทุกขนาด นำหลักการสิทธิมนุษยชนเป็นพื้นฐานในการบริหารจัดการและการปฏิบัติงานทุกระดับ เคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน ป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิต่อบุคลากรในหน่วยงาน ลูกค้า ผู้บริโภค ตลอดจนลดความเสี่ยงหรือข้อร้องเรียนอันเกิดจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยในปี 2564 ไออาร์พีซี ได้นำเสนอแนวทางการนำหลักสิทธิมนุษยชนมาผสมกับวัฒนธรรมองค์กรและบูรณาการร่วมกับกระบวนการทำงานในการผลิตสินค้า และบริการที่มีคุณภาพ สร้างคุณค่าร่วมให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ดี และการพัฒนาความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้อย่างยั่งยืน